Teacher Inin

  เรามีเวลาให้กับสิ่งที่สำคัญเสมอ                เคยคิดมั้ยคะ เราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงในแต่ละวันเท่าๆกัน แล้วเราใช้เวลา 24 ชั่วโมงนี้ทำอะไรกันบ้าง ที่ถามเนี่ยไม่ได้จะบอกว่า เราจะต้องทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ เต็มไปด้วยสาระนะคะ แบบนั้นไม่ไหว เครียดเกินไป ไม่ดีๆ                เราอาจจะเคยได้ยินบางคนพูดว่าไม่มีเวลาเลย ไม่ได้ทำอันนั้น ไม่ได้ทำอันนี้เพราะไม่มีเวลา   ถ้าเราลองคิดให้ดี เราจะพบว่า หากสิ่งนั้น เรื่องนั้นสำคัญสำหรับเราจริงๆ เราจะมีเวลาให้สิ่งนั้นแน่นอนค่ะ                ขอยกตัวอย่างการทำงานบ้านนะคะ เป็นเรื่องที่เราคงไม่ชอบทำกันเท่าไรนัก แต่ถ้าสมมติวันนึง มีคนบอกจะให้เงินเราแสนนึงเพื่อทำงานบ้าน เชื่อว่าเราจะรีบทำในทันทีเลยจริงมั้ย                วันนี้อยากบอกว่า งานและเงินเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต ที่เรามักจะทุ่มเทเวลาให้มากมาย   แต่อย่าลืมให้เวลากับคนสำคัญในชีวิตของเรา คนที่รักเรา ห่วงใยเรา อย่างครอบครัว หรือเพื่อนของเรานะคะ อย่าคิดว่าเมื่อไรก็ได้   ขอให้ Balance ชีวิตของเราในทุกๆวันให้ดีนะคะ Teacher Inin:) #Mywebsite https://pws.npru.ac.th/intrira #มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม www.npr

   Self-compassion อย่าลืมใจดีกับตัวเอง:)                     ตั้งแต่ตอนที่เราเป็นเด็ก เราทุกคนมักจะถูกสอนมาให้ใจดีกับคนอื่น เห็นอกเห็นใจ ให้ความช่วยเหลือ  ทำอะไรให้คิดถึงความรู้สึกของคนอื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา                    คำสอนเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีนะคะ ไม่ผิดเลย โลกของเราจะน่าอยู่ขึ้นมากๆ ถ้าทุกคนเข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน                    อย่างไรก็ตาม อะไรที่มากไปบางทีก็อาจไม่ดี  ถ้าเราเป็นคนที่คิดถึงคนอื่นมากเกินไป กลัวคนอื่นจะลำบาก เสียใจ ทำดีกับทุกคน แต่กับตัวเอง ถ้าทำอะไรผิด ก็จะเผลอโทษตัวเองอย่างรุนแรง  เรา ให้อภัยคนอื่นตลอด  ใจดีกับทุกคน แต่ไม่ใจดี ไม่ให้อภัยตัวเองเลย                    ถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตัวเราเองก็เป็นมนุษย์ มีหัวใจเหมือนกัน  อะไรที่เคยทำผิด ก็อย่าได้โทษตัวเองเลยค่ะ อภัยให้ตัวเอง และเรียนรู้ก็เพียงพอแล้ว      และอะไรที่ทำให้เราไม่มีความสุขก็ออกห่างจากสิ่งนั้น เท่านั้นเอง                    ใจดีกับตัวเองมากๆนะคะทุกคน Teacher Inin:) #Mywebsite https://pws.npru.ac.th/intrira #มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม www.npru.ac.th #คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

                               ชีวิตของเราทุกวันเนี่ยมักจะต้องมีการเดินทางใช่มั้ยคะ ไม่ว่าจะไปโรงเรียน ไปมหาวิทยาลัย ไปทำงาน ซึ่งเราก็จะต้องขึ้นพาหนะต่างๆกันไปตามแต่โอกาส สำหรับภาษาไทยไม่ว่าจะพาหนะไหนเราก็บอกว่าขึ้นได้เลย จะขึ้นรถ ขึ้นเรือใช้ได้หมด แต่ภาษาอังกฤษเนี่ยต่างกันอยู่สักหน่อยนะคะ จากภาพด้านบน ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าพาหนะที่ขนาดใหญ่หน่อย เราสามารถขึ้นไปยืนหรืออยู่บนนั้นได้เนี่ย เราจะใช้คำว่า "Get on" เช่น เครื่องบิน เรือ รถไฟ รถเมล์ ยกเว้น จักรยานค่ะขนาดไม่ใหญ่แต่ตัวเราอยู่บนจักรยานนะ Ex. Get on a bike       Get on a plane       Get on a train ส่วน "Get in" เราใช้กับพาหนะที่ขนาดเล็กกว่าแนวๆ รถยนต์นะคะ  Ex. Get in a car       Get in a taxi ตอนนี้ขึ้นรถ ขึ้นเครื่องบินแล้ว พอถึงตอนลง ง่ายแล้วค่ะ ใช้คำเดียวเลย "Get off" ไม่ว่าจะลงพาหนะไหนใช้  "Get off" จบเลยค่ะ จบบบ;) Ex. Get off a car       Get off a train Teacher Inin:) #Mywebsite https://pws.npru.ac.th/intrira #มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม www.npru.ac.th #คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์  http://de